วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความเศร้าหมอง

เริ่มจากหลายวันก่อนนั้น เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจ (เรื่องงาน-จากการเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน) จริงๆก็ฉุกคิดได้นะว่า นี่คืออารมณ์เศร้าหมอง แต่ต้องทำยังไง
ก็ได้พบในบทความของหลวงพ่อปราโมช ปาโมชฺโช อย่างนี้ว่า

"ไม่ใช่ให้เห็นว่าเราเศร้าหมอง ให้เห็นว่าความเศร้าหมองนั้นไม่ใช่เรา จิตอันหนึ่ง ความเศร้าหมองอีกอันหนึ่ง ความเศร้าหมองเป็นสิ่งที่จิตไปรู้เข้า ความเศร้าหมองไม่ใช่ตัวเรา ความเศร้าหมองมันไม่ใช่จิตด้วย"

อ่านเพียงเท่านี้ ความเศร้าหมองก็หลุดไป
กลายเป็นความว่าง

แล้วติดอะไรอยู่หนอ เท่าไหนคือนิพพาน
ก็ได้พบบทความของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล อย่างนี้ว่า

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย   บุคคลอาศัยจักษุและรูป เกิดจักษุวิญญาณ  ความประจวบกันของธรรมทั้ง๓เป็นผัสสะ  และเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ย่อมเกิดความเสวยอารมณ์(เวทนา เป็นสุขบ้าง  เป็นทุกข์บ้าง  มิใช่ทุกข์มิใช่สุขบ้าง)

เขาอันสุขเวทนาถูกต้องแล้ว  ย่อมไม่เพลิดเพลิน  ไม่พูดถึง  ไม่ดำรงอยู่ด้วยความติดใจ  จึงไม่มีราคานุสัยนอนเนื่องอยู่

อันทุกขเวทนาถูกต้องแล้ว  ย่อมไม่เศร้าโศก  ไม่ลำบาก  ไม่ร่ำไห้  ไม่คร่ำครวญทุ่มอก  ไม่ถึงความหลงพร้อม  จึงไม่มีปฏิฆานุสัยนอนเนื่องอยู่

อันอทุกขมสุขเวทนาถูกต้องแล้ว  ย่อมทราบชัดความตั้งขึ้น  ความดับไป  คุณ  โทษ  และที่สลัดออกแห่งเวทนานั้น ตามความเป็นจริง  จึงไม่มีอวิชชานุสัย  นอนเนื่องอยู่

ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ข้อที่บุคคลนั้นละราคานุสัยเพราะสุขเวทนาบรรเทา,  ละปฏิฆานุสัยเพราะทุกขเวทนา,  ถอนอวิชชานุสัยเพราะอทุกขมสุขเวทนา,  ยังวิชชาให้เกิดขึ้นเพราะละอวิชชาเสียได้  แล้วจักเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ในปัจจุบันได้  นั่นเป็นฐานะที่มีได้ฯ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก