วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เข้าใจแล้ว!

เอ้อ จริงๆแล้วมันก็อยู่ในที่บันทึกๆมานี่ล่ะ
พอกลับมาอ่านอีกที รู้สึกว่ามันลึกไปอีกขั้น

ว่าคำสอนสุดท้าย
ไม่ว่าจะพิจารณาจากสติปัฏฐาน ไตรลักษณ์ โทษของกาม
ก็เพื่อให้เห็นว่า มันไม่ใช่เรา เท่านี้เอง
จะเรียกว่า ตัดขันธ์ 5 ก็ถูกนะ รูปไม่ใช่เรา เวทนาไม่ใช่เรา
จะรู้จากสติปัฏฐานก็ได้แบบนี้
จะรู้จากไตรลักษณ์ก็ได้แบบนี้

สุดท้ายการตัดอวิชชา ก็รู้ได้ด้วยการ"เห็นตามความเป็นจริง"

.....

คำสอนหลวงปู่ดุลย์ อตุโล

  • ที่จริงพระอรหันต์ทั้งหลายท่านไม่ได้รู้อะไรมากมายเลย เพียงแต่เจริญจิตให้รู้แจ้งใน ขันธ์๕,  แทงตลอดในปฏิจจสมุปบาท, หยุดการปรุงแต่ง
  • จิตนั้นจะยกสภาวะธรรมขึ้นมาพิจารณาไตร่ตรองให้เกิดวิปัสสนาญาณ เกิดปัญญาแล้ว ปัญญานั้นก็จะแจ่มแจ้งดีกว่าจิตที่ไม่มีสมาธิ

ปฐมอวิชชาสูตร และอวิชชาปหานสูตร

  • ดูก่อนภิกษุ เมื่อภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่จักษุโดยความเป็นของไม่เที่ยง จึงละอวิชชาได้ วิชชาจึงเกิดขึ้น เมื่อภิกษุรู้อยู่เห็นอยู่ซึ่งรูป ทั้งหลาย ฯลฯ ซึ่งสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้น เพราะจักษุสัมผัส เป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง จึงละอวิชชาได้ วิชชาจึงเกิดขึ้น ดูก่อนภิกษุ เมื่อภิกษุรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงละอวิชชาได้ วิชชาจึงเกิดขึ้น.
  • อนิจฺจโต ชานโต ความว่า อวิชชา เธอย่อมละได้ด้วย สามารถแห่งอนิจจลักขณะ และ อนัตตลักขณะนั่นเอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก