1.
ศีลวิสุทธิ ต้องเป็นศีลที่ทำเพื่อละกิเลส ปรารถนาพระนิพพาน จึงจัดเป็นศีลที่บริสุทธิ์
2. จิตตวิสุทธิ ก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นสมาธิเพื่อเป็นปัจจัยแก่การพ้นทุกข์ จึงจัดเป็นสมาธิบริสุทธิ์
3. ทิฏฐิวิสุทธิ ปัญญาที่เห็นถูกโดยปราศจากกิเลส เห็น นามรูป ว่าไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
1.) นามรูปปริจเฉทญาณ เห็นรูปธาตุและนามธาตุเป็นคนละธาตุกันอย่างชัดเจน
4. กังขาวิตรณวิสุทธิ หมดความสงสัยในการเวียนว่ายตายเกิด
2.) นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ เห็นเหตุปัจจัยของนามรูป ตามปฏิจจสมุปบาท คือการเวียนว่ายตายเกิด:
อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร
สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ
วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป
นามรูปเป็นปัจจัยให้เกิดอายตนะ 6
อายตนะ 6 เป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ
ผัสสะเป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา
เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา
ตัณหาเป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน
อุปาทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพ
ภพเป็นปัจจัยให้เกิดชาติ
ชาติเป็นปัจจัยให้เกิดชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดรูป คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม และอาหาร
เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดนาม คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม ผัสสะ และวิญญาณ
5.
มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ ปัญญาที่รู้โดยถูกต้องแน่นอนแล้วว่า วิธีการใดใช่ทาง หรือวิธีการใดไม่ใช่ทาง ที่จะดำเนินไปสู่การดับภพชาติของตน
3.) สัมมสนญาณ เห็นสังขตธรรมลักษณะ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป (ไตรลักษณ์) ของนามรูป
4.) อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ที่ยังเป็นวิปัสสนาญาณอย่างอ่อน (ตรุณอุทยัพพยญาณ) คือ ปัญญาอันเป็นปฏิปทาที่ถูกต้อง แต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์พอที่จะรู้เท่าทันในอารมณ์ของกิเลส คือ วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ อย่าง มีโอภาสเป็นต้น
6.
ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ปัญญาที่เข้าถึงความรู้สึกในทางที่ถูก ตรงสู่พระนิพพานโดยถูกต้องแล้ว
4.) อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ที่เจริญขึ้น (พลวอุทยัพพยญาณ) เห็นความเกิดดับของนามรูป
5.) ภังคานุปัสสนาญาณ เห็นความดับของนามรูป
6.) ภยตูปัฏฐานญาณ เห็นนามรูปปรากฏเป็นของน่ากลัว
7.) อาทีนวานุปัสสนาญาณ เห็นนามรูปเป็นโทษ
8.) นิพพิทานุปัสสนาญาณ เห็นความเบื่อหน่ายในการครองนามรูป
9.) มุจจิตุกัมยตาญาณ อยากพ้นไปเสียจากการครองนามรูป
10.) ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ พิจารณาหาทางเพื่อให้พ้นจากการครองนามรูป
11.) สังขารุเบกขาญาณ พิจารณานามรูปด้วยความวางเฉย
12.) สัจจานุโลมิกญาณ รู้อารมณ์ของนามรูปเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบรรลุอริยมรรค
7.
ญาณทัสสนวิสุทธิ ปัญญาในมัคคญาณที่เห็นแจ้งพระนิพพนาน
13.)โคตรภูญาณ หัวต่อแห่งการข้ามจากภาวะปุถุชนเข้าสู่ภาวะอริยบุคคล
14.) มัคคญาณ ญาณที่เข้าสู่ความเป็นพระอริยบุคคลแต่ละขั้น ได้แก่ โสดาปฏิมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหันตมรรค
15.) ผลญาณ ญาณที่เข้าสู่ความเป็นพระอริยบุคคลในขั้นนั้นๆสมบูรณ์ ได้แก่ โสดาปัตติผล สกิทาคามิผล อนาคามิผล อรหันตผล
16.) ปัจจเวกขณญาณ พิจารณาทบทวนมรรคผล กิเลสที่ละได้แล้ว กิเลสที่ยังเหลืออยู่ และพระนิพพาน
ตั้งแต่วิสุทธิที่ ๑ ถึงวิสุทธิที่ ๖ นั้น รู้อริยสัจจ์เพียง ๒ สัจจะ คือ รู้ทุกข์สัจจ์กับสมุทัยสัจจ์ ส่วนญาณทัสสนวิสุทธิเป็นโลกุตตรวิสุทธิ เพราะรู้แจ้งอริยสัจจ์ครบทั้ง ๔
- ตัดจากเว็บอภิธรรมออนไลน์
+ หนังสือวิปัสสนาภาวนา