เรื่องมรรค ๘ ก็เป็นเหมือนเรื่องอริยสัจ ๔ ในบทความแรก ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่นัก
อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจว่าคำสอนต่างๆจะสรุปลงในมรรค ๘ ได้อย่างไร
ตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม จำได้ว่า สัมมาทิฏฐิ แปลว่า เห็นชอบ ก็รับรู้แค่นั้น
• สัมมาวาจา ก็เข้าใจแค่ว่า เว้นจากการพูดเท็จ, พูดส่อเสียด, พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อ
• สัมมาวาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ ทุกวันนี้ก็ทำงานสุจริต
จนเมื่อเร็วๆนี้ ได้ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง อธิบายความหมายของคำว่า สัมมาทิฏฐิ
จำคำพูดไม่ได้แม่นยำนัก แต่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยจำมา จึงสะดุดใจ และมาค้นหาความหมายของสัมมาทิฏฐิ
🍀🍀🍀
การรู้ปล่อยวางในอารมณ์ เป็นวิถีแห่งความสงบสุขการฝึกจิตให้รู้ปล่อยวางความวุ่นวาย ความรู้สึกยินดียินร้าย ที่เกิดเป็นกิเลส อกุศล เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้จิตไม่เศร้าหมองการท่องธัมมะภาวนาไว้ในใจอยู่เสมอ จะช่วยให้จิตรู้ปล่อยวาง ยิ่งเพียรได้ตลอดยิ่งดี ใจก็เกิดความสบาย จัดเป็นการดำริชอบตามอริยมรรคมีองค์ ๘- ย่อจากการรู้ปล่อยวางในอารมณ์ หลวงพ่ออุดม มหาปุญโญ วัดป่าหนองเลง
🍀🍀🍀
ตามสัมมาทิฏฐิสูตร สัมมาทิฏฐิ คือ การรู้ชัดซึ่งอกุศล มูลเหตุของอกุศล - ได้แก่ โลภะ โทสะ และโมหะ - รู้ชัดซึ่งกุศล และมูลเหตุของกุศลอกุศลทางกาย ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกามอกุศลทางวาจา ได้แก่ พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้ออกุศลทางใจ ได้แก่ อยากได้ของผู้อื่น ปองร้าย และเห็นผิดจากคลองธรรม คือ ไม่เห็นว่า- ทานที่ให้แล้วมีผล
- การสงเคราะห์มีผล
- การยกย่องบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผล
- ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมีจริง
- โลกนี้มี
- โลกหน้ามี
- แม่มี
- พ่อมี
- สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมี
- พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้วมี
สัมมาทิฏฐิ เป็นเบื้องต้นของการทำกุศลธรรม และอยู่ในหมวดของปัญญา ในศีล-สมาธิ-ปัญญา
🍀🍀🍀
จำไม่ได้ว่าได้ยินจากพระ/อาจารย์ท่านไหน สอนว่า "มรรค 8 ทุกข้อ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์"
เพิ่งจะเริ่มเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง ความว่า ...
บุคคลย่อมพยายามละมิจฉาวาจา เพื่อบรรลุสัมมาวาจา ความพยายามนั้น เป็นสัมมาวายามะ
บุคคลมีสติละมิจฉาวาจาได้ มีสติบรรลุสัมมาวาจาอยู่ สตินั้นเป็นสัมมาสติ
ด้วยอาการนี้ ธรรม ๓ ประการ คือ สัมมาทิฐิ สัมมาวายามะ สัมมาสติ ย่อมห้อมล้อม เป็นไปตามสัมมาวาจาของบุคคลนั้น ฯ
(๕) ถ้าบัณฑิตรู้จักกาลแล้ว พึงประสงค์จะพูด
- ควรเป็นคนมีปัญญา
- ไม่เป็นคนเจ้าโทสะ
- ไม่โอ้อวด
- มีใจไม่ฟุ้งซ่าน
- ไม่ใจเบาหุนหันพลันแล่น
- ไม่เพ่งโทษ
กล่าวแต่ถ้อยคำที่บุคคลผู้ตั้งอยู่ในธรรมพูดกัน และประกอบด้วยธรรมซึ่งพระอริยเจ้าพูดจากันเพราะรู้ทั่วถึงได้เป็นอย่างดี เขาจึงพาทีได้
- บุคคลควรอนุโมทนาคำที่เป็นสุภาษิต
- ไม่ควรรุกรานในถ้อยคำที่กล่าวชั่ว
- ไม่ควรศึกษาความแข่งดี
- และไม่ควรยึดถือความพลั้งพลาด
- ไม่ควรทับถม
- ไม่ควรข่มขี่
- ไม่ควรพูดถ้อยคำเหลาะแหละ
(๖) วาจาใด เป็นปม เป็นกาก เผ็ดร้อนต่อผู้อื่น เกี่ยวผู้อื่นไว้ ยั่วให้โกรธ ไม่เป็นไปเพื่อสมาธิ ละวาจาเช่นนั้นเสีย
วาจาใด ไร้โทษ สบายหู ไพเราะ จับใจ เป็นวาจาของชาวเมืองเป็นที่ยินดีเจริญใจของชนหมู่มาก กล่าววาจาเช่นนั้น
ที่มา ส - สัมมาสมาธิ | มูลนิธิอุทยานธรรม
🍀🍀🍀
สัมมาวาจา คือ วาจาที่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน นั่นแล
ความเข้าใจที่เคยมีมานี้ ช่างตื้นเขินเสียจริงๆ ก็ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า รู้มรรค 8 ทั้งหมด ก็ต้องศึกษาต่อไป :)