วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563

อรูปพรหม

เคยได้เรียนได้อ่านมาว่า

อาฬารดาบสและอุทกดาบส ไปเกิดในอรูปพรหม ไม่มีรูป ไม่มีตามองเห็น ไม่มีหูได้ยิน มีแต่จิต จึงฟังธรรมไม่ได้

อ่านแล้ว รู้สึกไม่ใช่อ่ะ ทำไมมีจิตแล้วจะสื่อสารไม่ได้
ก็ search google ไปเรื่อยๆ เจอคำอธิบายนี้ ก็น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้มากกว่า

" จิตที่ทำกิจปฏิสนธิในอรูปพรหมภูมิ คือ  อรูปาวจรวิบาก  เมื่อทำกิจปฏิสนธิ  ก็ทำกิจภวังค์ รักษาภพชาติความเป็นพรมหบุคคลนั้นไว้    จนกว่าจะจุติ   สิ้นสุดจากความเป็นอรูปพรหมบุคคล   เพราะฉะนั้น  การรับผลของกรรมของอรูปพรหมบุคคล  จึงไม่เกี่ยวข้องกับทางตา  ทางหู  ทางจมูก  ทางลิ้น  ทางกาย  เพราะไม่มีรูปธรรมเกิดขึ้น (แม้ทางใจก็ไม่มี) "

" ขณะที่เป็นภวังค์ เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยไม่อาศัยทวารใด ๆ ใน ๖ ทวารเลย "

เพราะจิตอยู่ในภวังค์ จึงไม่สามารถรับรู้สื่อสารได้ (ตามความรู้ความเข้าใจตอนนี้)

วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2563

ใช่เลย

พระองค์ทรงสอนให้พิจารณาธรรมทั้งหลาย ที่กายที่ใจของเรา ธรรมะไม่ได้อยู่ไกลที่ไหน อยู่ที่ตรงนี้ อยู่ที่กายที่ใจของเรานี่แหละ

ให้รู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา ให้เห็นการเกิดดับของกายและใจ แต่อย่าให้มันมาทำใจให้วุ่นวาย เกิดขึ้นก็ปล่อยไป อย่าเก็บไว้

พอเข้าใจได้ชัด ทีนี้ก็จะปล่อยอะไรๆ ได้ทั้งหมด ก็ไม่ใช่ว่าความคิดความรู้สึกมันจะหายไป มันก็ยังอยู่นั่นแหละ แต่มันหมดอำนาจเสีย

รูปก็เป็นสักแต่ว่ารูป เสียงก็สักแต่ว่าเสียง กลิ่นก็สักแต่ว่ากลิ่น รสก็สักแต่ว่ารส โผฎฐัพพะก็สักแต่ว่าโผฎฐัพพะ ธรรมารมณ์ก็สักแต่ว่าธรรมารมณ์ ใจก็สักว่าใจ ความคิดก็สักว่าความคิด เปรียบเหมือนน้ำมันกับน้ำ ถ้าเราเอาทั้งสองอย่างนี้เทใส่ขวดเดียวกัน มันก็ไม่ปนกัน

("ภาษาธรรม" เมื่อเอามาคิดเป็นภาษาโลกมันก็เลยยุ่ง แล้วก็ตีความหมายว่าอย่างนั้นอย่างนี้)

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก