วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560

อริยสัจ ๔ และ สติปัฏฐาน

อริยสัจ ๔ และ สติปัฏฐาน เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจมานาน
ยังเคยสนทนาว่า เพียงพูดว่า "อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค" ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะถึงพระนิพพานได้อย่างไร

วันนี้ก็มีความเข้าใจมากขึ้น เพราะเจอมหาสติปัฏฐานสูตร ก็ไขข้อข้องใจเรื่องสติปัฏฐานได้เป็นอย่างดี จากเคยสงสัยว่า ให้ดูกาย ยืน เดิน นั่ง นอน ดูแล้วแล้วยังไง

จริงๆแล้ว สติปัฏฐานเริ่มที่สมถะและจบที่วิปัสสนา ในพระสูตร แม้จะดูกาย เวทนา จิต ธรรม ก็มักจะจบว่า "สักว่าเป็นที่รู้ สักว่าเป็นที่อาศัย ไม่ติดอยู่ ไม่ยึดถืออะไรๆ"

ในส่วนของธรรมนั้น ก็มีอริยสัจ ๔ เป็นบทพิจารณาหนึ่ง
ธรรมะทุกหัวข้อที่พระองค์สอน ก็เป็นไปเพื่ออริยสัจ เพื่อให้เห็นตามความเป็นจริงนั่นเอง

เช่นว่า "สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา"

มีสังขารจึงมีความไม่เที่ยง เมื่อไม่เที่ยงก็เป็นทุกข์
เพราะเป็นอนัตตา ไม่ควรยึดถือเป็นเรา เป็นของเรา
ก็เห็นทั้งทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรคในคราวเดียว

จึงสรุปได้ว่า...
ไม่ใช่สอนว่า "อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค"
แต่ธรรมะที่พระองค์สอนนั้นแหละ คืออริยสัจ ๔


(พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร พระพุทธเจ้าสอนอะไร...
จะเรียก ธรรมะ ก็ได้ แต่จะไม่เป็นเอก เพราะสิ่งที่พระองค์สอน ไม่เคยมีใครสอนมาก่อน นั่นคือ สอนให้เห็นความจริง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก