วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อารมณ์

แต่ก่อนเคยอ่าน อย่างอารมณ์พระโสดาบัน

ละสังโยชน์ 3
1. สักกายทิฏฐิ
2. วิจิกิจฉา
3. สีลัพพตปรามาส
และรักพระนิพพานเป็นอารมณ์


ก็คิดว่าเข้าใจความหมายนะ

จนช่วงนี้

วันนั้นเหมือนจะหลับๆเคลิ้มๆไป จำได้ว่า คิดขึ้นมาว่า 'แล้วถ้าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราล่ะ' คิดได้เท่านั้น มันก็หลุดเลย (ปล่อยเลย ที่เคยคิดอะไรๆ มันก็ไม่สนใจแล้วว่าจะเป็นไง)

อย่างเมื่อคืนที่ตระหนักถึงความยาวนานของชีวิตเป็นอสงไขยๆ มันก็รู้สึกไม่ใยดีกับสิ่งที่เหลือในชีวิตนี้แล้ว จิตปรารถนาพระนิพพานมาก จิตรักพระพุทธเจ้าแนบแน่น
จนถึงตอนเช้า เห็นผู้คน ก็มีอารมณ์เหมือนจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมพระอนาคามีถึงไม่เกิดความรักระหว่างเพศ มันมองแล้วก็ว่างเปล่า ตัวเขาก็ว่างเปล่า ตัวเราก็ว่างเปล่า

ตอนนี้รู้ได้ว่า การเข้าใจ ที่เกิดจากการอ่านแล้วจำได้ มันไม่เหมือนกับการเข้าใจที่อารมณ์นึกอย่างนั้นจริงๆ


อ.กล่าวไว้ในหนังสือว่า

มนุษย์ที่อยู่ด้วยความหลับคือกิเลส เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น ก็ตื่นขึ้นชั่วระยะหนึ่ง แล้วพากันหลับต่อไป


น่าคิดว่า พบพระพุทธศาสนาครั้งหนึ่ง ได้ศึกษาธรรมะครั้งหนึ่ง
แล้วถ้าหลังจากชาตินี้ ไม่ได้พบพระพุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร
เพียงสาวกภูมิ ใช้เวลานานนับอสงไขย หากไม่สามารถไปได้ในชาตินี้ แล้วต้องรอครั้งใหม่ 
.....แค่คิดก็รู้สึกว่ายาวนานเกินไปแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก