วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เย ธมฺมา เหตุปปฺภวา เตสํ เหตุ ตถาคโต


เย ธมฺมา เหตุปปฺภวา ธรรมใดเกิดแต่เหตุ
เตสํ เหตุ ตถาคโต  พระพุทธเจ้าทรงตรัสเหตุแห่งธรรมนั้น
เตสฺญจ โย นิโรโธ จ และความดับเหตุของธรรมเหล่านั้น
เอวํ วาที มหาสมโณ  พระมหาสมณเจ้าทรงตรัสอย่างนี้


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากหาข้อมูลทั่วไป ก็จะพบใจความว่า
คาถาบทนี้ เป็นการกล่าวสรุปหลักธรรมของพุทธศาสนา ซึ่งก็คืออริยสัจ 4
และเปรียบเทียบบาท ๑, ๒, ๓ กับทุกข์ สมุทัย และนิโรธ มรรค ตามลำดับ

ธรรมะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ใครจะหยิบบทไหนมาเล่ามาอธิบายก็ไม่ผิด เพราะเป็นไปเพื่อให้เหมาะกับจริตของแต่ละบุคคล
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เราก็มาทำความเข้าใจตามแบบฉบับของเราดีกว่า...

ธรรม (นอกเหนือจากความหมายของพระธรรมคำสอนนั้น) หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่าง สภาพ ธรรมดา

แปลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกิดมาจากเหตุปัจจัย

ความทุกข์ใจ ทุกข์กายที่เกิดขึ้น ก็เพราะอาศัยร่างกายเป็นเหตุตัวเดียว ถ้าไม่มีร่างกายนี้แล้ว เราจะทุกข์แบบนี้ไหม

แล้วร่างกายเกิดมีมาได้อย่างไร ก็เพราะอาศัยกิเลส ตัณหา อุปาทาน

ถ้าไม่อยากทุกข์ ก็ต้องไม่มีร่างกาย

เมื่อไม่อยากให้มีร่างกาย ก็ต้องดับกิเลส ตัณหา อุปาทาน

และต้องการจุดเดียวคือพระนิพพาน

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ

" คนที่จะเข้าถึงพระนิพพานได้นั้น ต้องเห็นโลกเป็นทุกข์ทุกมุม  ไม่มีกรณีใดๆทั้งหมด
สิ่งที่มีในโลก จะเป็นสิ่งมีชีวิตก็ได้ วัตถุก็ดี หรือแม้แต่อารมณ์ก็ตาม
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นพื้นฐานของความทุกข์ทั้งนั้น
ไม่มีสภาวะใดๆแน่นอน ไม่มีสภาวะใดอยู่ในความมั่นคง "
-- หนังสือธรรมะเพื่อพระนิพพาน


ในอัปปมาทกถา มีความว่า อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ แปลเป็นใจความว่า ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม


คำนี้เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ หากถามความเข้าใจ ก็ยังเคยเข้าใจแบบเด็กๆ เหมือนเวลาขับรถไม่ให้ประมาท ( -- เหมือนที่เคยเข้าใจคำว่า"อริยสัจ ๔", "อภิธรรม" สมัยที่ยังไม่ได้อ่านธรรมะ )


แต่ยิ่งผ่านเวลามา ยิ่งรู้ว่า คำสอนนี้ลึกซึ้งกว่านั้นมาก ถึงกระนั้น ก็ยังไม่อาจตอบได้ว่า เข้าใจคำว่า 'ไม่ประมาท' ได้ครบถ้วนแล้ว


ธรรมะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ย่อลงให้เหลือ ๓ คือ
๑. ทำความดี
๒. ละเว้นความชั่ว
๓. ทำจิตใจให้บริสุทธิ์

หรือหากจะย่อลงให้เหลือ ๑ ก็คือ ความไม่ประมาท อย่างเดียว
นั่นหมายความว่า ความไม่ประมาท กินใจความทั้งหมดของ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์


ความประมาท ประมาทอย่างไร...?


คิดว่าการเกิดเป็นของดี
-- ไม่เห็นภัยของสังสารวัฏ พอใจในการเกิดในมนุษย์ ในสวรรค์ ในพรหม

คิดว่าชีวิตนำมาซึ่งความสุข
-- อย่าลืมว่า โรคนิทธัง ร่างกายเป็นรังของโรค มีความป่วยไข้ไม่สบายเป็นธรรมดา ร้อนไป หนาวไป กระทบกระทั่งอารมณ์ไม่ชอบใจ ผิดหวังอยู่เสมอ

คิดว่ายังมีเวลาหลายปีกว่าจะตาย
 -- เคยอ่านเจอบทความของคนหนึ่ง สมมติว่าถ้าตายตอนอายุ ๖๐ ปี เขาจะเหลือวันเสาร์ให้เที่ยวอีกประมาณ ๑,๗๐๐ ครั้ง คิดแล้วจึงไม่อยากเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์...

บทความนี้เกือบจะดี แต่ยังเต็มไปด้วยความประมาทอยู่มาก
มรณานุสสติกรรมฐาน  สอนให้นึกถึงความตายทุกลมหายใจ

เหตุการณ์ของตัวเอง กระตุ้นเตือนเรื่องนี้ได้ดี คือ
ฝันว่าหายใจไม่ออก ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง จนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พบว่าไม่ได้หายใจจริงๆ และได้ยินเสียงกึกกักตรงจมูกเหมือนเวลาเป็นหวัด และเริ่มหายใจได้อีกครั้ง

ไม่ว่าจะด้วยอาการภูมิแพ้หรืออะไร แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า จังหวะนั้นลืมจับพระนิพพาน ถ้าตายไปตอนนั้น คงหลงทางแน่ ถ้ารู้ว่าความตายอาจอยู่ใกล้เพียงคืนนั้น ก็ควรจะรีบฝึกจับพระนิพพานไว้


คิดว่าคนอื่นไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เคยหาความไม่ดีของตัวเอง
-- หาความชั่วของตัวเอง จิตของเราตัดกิเลสได้แล้วหรือยัง


เหล่านี้คือความเข้าใจความหมายของคำว่า 'ไม่ประมาท' ในตอนนี้

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก