วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ขันธ์ ๕

พระพุทธเจ้าสอนให้เห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง...
เคยอ่านเรื่องขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แต่รอบนี้เห็นได้ชัดขึ้น

เหมือนกับว่า บางทีมันต้องเจอบททดสอบหน่อย จะได้รู้ตัว และจะได้มองออก ถ้าอยู่สบายๆ ก็คงไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่ได้อะไรเลย

ตามความเข้าใจของเรา ราคะก็คงจะต้องแก้ด้วย อสุภะกรรมฐาน แต่พยายามแล้ว มันไม่หลุดแหะ

แต่มาหลุดได้จากตรงนี้

จิต คือผู้ไปรู้
อารมณ์ เป็นสิ่งที่ถูกรู้ เช่น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
ธรรมารมณ์ คือ เวทนา สัญญา สังขาร เป็นสิ่งที่ถูกรู้

ปกติแล้ว จิตหรือวิญญาณขันธ์ เมื่อไปรู้ ไม่ว่ารูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส หรือรู้เวทนา สัญญา สังขาร

วิญญาณขันธ์ก็จะทำงานร่วมกับเวทนา สัญญา สังขารที่เรียกว่า เจตสิก ก็จะเป็นอารมณ์ที่ถูกรู้ทันที

แต่รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสนี่ยังไกล อารมณ์ที่ใกล้จิตที่สุด คือธรรมารมณ์ คือเวทนา สัญญา สังขาร

เมื่อไปรู้สิ่งใดแล้ว จะส่งต่อเวทนา ถูกใจ ไม่ถูกใจ หรือกลางๆ ส่งต่อสัญญา คือความจำได้หมายรู้  แล้วก็คิดนึก ปรุงแต่ง เป็นสังขาร

ถ้ามีอวิชชา ก็ยึดถือว่า นี่เป็นตัวตนของเรา นั่นเป็นตัวตนของเขา ยึดถือสังขาร (ขันธ์ 5) และยึดถือวิสังขาร (ใจหรือธาตุรู้)

ถ้าเราแยกจิตกับอารมณ์ได้ขาด ก็จะหลุดพ้นจากอารมณ์ทั้งมวลได้

เมื่ออ่านแล้วพิจารณาตาม ก็เห็นเป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้จริงๆ ก็สลัดได้

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก