วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

นอกเรื่อง: พราหมณ์ ฮินดู

ช่วงนี้พอจะได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพราหมณ์-ฮินดูบ้าง จุดประสงค์ก็เพื่ออยากแยกแยะความเชื่อของพราหมณ์-ฮินดู จากศาสนาพุทธให้ออก

ก็พอดีได้อ่านเจอเรื่องเกี่ยวกับพระอินทร์ ว่ามีร่างสีเขียว ทรงช้างเอราวัณเป็นพาหนะ แต่ในเทวโลกไม่มีสัตว์เดรัจฉาน ฉะนั้นช้างนี้เป็นเทพบุตร จะแปลงกายเป็นช้างเมื่อพระอินทร์ต้องการเสด็จ


ก็นึกประหลาดใจอยู่หลายอย่าง


 ...

เรื่องนี้ก็คงเป็น 1 ในหลายๆเรื่อง เหมือนที่สงสัยว่า  84,000 พระธรรมขันธ์นับยังไง
ที่อาจจะมีคนกล่าวว่า รู้แล้วใช่หนทางดับทุกข์หรือ
ควรจะเอาลูกศรที่ถูกยิงมาออก อย่ามัวหาคนที่ยิงศรอยู่ 

แต่บางเรื่องก็เกินกว่าจะทำใจให้ผ่านเลยไปได้ 
และเพื่อทำตามปณิธานของตนเองแล้ว ก็ต้องหาคำตอบ

 ...

  
ในเรื่องรามายณะ (ฮินดู) พระอินทร์มีร่างสีเขียว มีพาหนะ 2 อย่างคือ รถม้า ซึ่งก็คือพระอาทิตย์ และช้างเอราวัณซึ่งพระศิวะเป็นผู้ประธานให้

ช้างเอราวัณ มี 33 เศียร แต่ละเศียรมี 7 งา แต่ละงายาว 4 ล้านวา แต่ละงามีสระบัว 7 สระ แต่ละสระมีดอกบัว 7 ดอก ... (ไล่ไปอย่างละ 7) กลีบ เกสร ปราสาท ชั้น บัลลังก์ เทพธิดา บริวาร นางทาสี  ...โดยปกติศิลปินไทยมักจะทำช้างเอราวัณเป็น 3 เศียร

ในยุคแรกของศาสนาพราหมณ์ พระอินทร์มีร่างสีทอง เป็นเจ้าแห่งสภาพภูมิอากาศ ก่อนจะถูกลดบทบาทลง มีหน้าที่รองจากตรีมูรติ  สมัยต่อมาร่างกายเป็นสีแดง และเป็นสีเขียวในปัจจุบัน

...

เพราะฉะนั้น 


แม้ในศาสนาพุทธ จะมีท้าวสักกะที่เรียกว่าพระอินทร์เช่นกัน แต่ความเชื่อด้านบนนั้น เป็นแต่เพียงความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเท่านั้น ไม่ควรนำมาปะปนกับศาสนาพุทธ



วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

ธิดา: ตัณหา ราคะ อรตี


อยู่ๆได้นึกไปถึง

เรื่องของธิดาทั้ง 3 ของพญามาร คือ นางตัณหา นางราคะ และนางอรตี ที่มาปรากฏหลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้
จากการได้อ่านได้ชม ก็มาในรูปของหญิงงามรูปร่างดี บางแหล่งก็กล่าวไปถึงขั้นว่ามาเต้นรำยั่วยวนบ้าง




ก็นึกแปลกใจ...


จากการสังเกต ความงามและรูปร่างของสตรีย่อมผูกใจชายได้อย่างมาก คงด้วยเหตุนี้กระมัง จึงเปรียบตัณหา ราคะ และอรตีเป็นดังนั้น เพราะไม่มีสิ่งใดจะตัดได้ยากไปกว่านี้



แม้ในพระไตรปิฎก ธิดาของพญามารทั้ง 3 จำแลงกายเป็นหญิงแบบต่างๆ และขอบำเรอพระองค์
พระองค์ทรงปฏิเสธ แล้วธิดาก็ได้ถามปัญหาธรรมเล็กน้อย
(ตรงนี้ ไม่ได้นุ่งน้อยห่มน้อยแล้วเต้นยั่วยวนแต่อย่างใด)


ตัณหา ความอยาก

ราคะ ความใคร่ ความกำหนัด

อรตี ความยินดี ยินร้าย ความไม่พอใจ


 แต่ใครจะตั้งชื่อบุตรสาวอย่างนั้น



และสุดท้ายแล้ว

สิ่งที่เป็นเครื่องขัดขวางในการปฏิบัติธรรม ไม่ได้มาจากบุคคลอื่นเลย

ตัณหา ราคะ อรตี มักจะเกิดขึ้นมาในจิตของตนเองนี่แหละ

เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว เป็นพระอรหันต์แล้ว เรื่องความสวยงามของร่างกายย่อมไม่มีผล
( ความรู้สึกระหว่างเพศย่อมหมดไปตั้งแต่พระอนาคามี )


จึงเชื่อว่า น่าจะเป็นการเปรียบเทียบมากกว่า
และเพื่อเป็นการบอกเล่าว่า หลังจากองค์สมเด็จพระพิชิตมารได้ตรัสรู้แล้ว
ตัณหา ราคะ อรตีนั้น ก็ได้หมดสิ้นแล้ว มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว และไม่กำเริบอีกต่อไป





วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

๘๔,๐๐๐

สงสัยมาสักพักหนึ่งแล้วว่า คำว่า ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั้น นับยังไง

ก็ได้พบเจอวิธีการนับอยู่ กล่าวไว้ว่า


ในพระวินัย มีวัตถุ มาติกา บทภาชนีย์ อันตราบัติ อาบัติ อนาบัติ ติกะ เหล่านี้ ส่วนหนึ่งๆ จัดเป็นหนึ่งพระธรรมขันธ์

พระสูตรที่มีอนุสนธิเดียว จัดเป็นหนึ่งพระธรรมขันธ์
ในพระสูตรที่มีอนุสนธิมาก นับพระธรรมขันธ์ด้วยด้วยอำนาจแห่งอนุสนธิ
ในคาถาพันธ์ทั้งหลาย คำถามปัญหาข้อหนึ่ง จัดเป็นหนึ่งพระธรรมขันธ์
คำวิสัชนาข้อหนึ่ง จัดเป็นหนึ่งพระธรรมขันธ์

ในพระอภิธรรม จำแนกติกะทุกะแต่ละติกะทุกะ จำแนกวารจิตแต่ละวารจิต จัดเป็นหนึ่งพระธรรมขันธ์


แต่ก็ยังไม่ค่อยสบายใจ เช่นว่า ถ้าดูจำนวนเล่มพระสูตรในพระไตรปิฎก ก็ออกจะมีมากกว่า


ก็นึกไปถึงคำว่า ๕๐๐ - โจร ๕๐๐ ไม่ได้แปลว่ามีโจร ๕๐๐ คน แต่หมายถึงมีจำนวนมาก
นี้คือสำนวนที่พบได้บ่อยๆ หรือสำนวนของไทยก็เช่น ร้อยแปดพันเก้า 
แบบนี้ก็คงจะแนวเดียวกันกระมัง เปิด google ก็เจอจาก Chinese Buddhist Encyclopedia


๘๔,๐๐๐ = uncountable หมายถึง มากมาย นับไม่ถ้วน นั่นเอง


นอกจากนี้ยังมีกล่าวไว้


"ภิกษุทั้งหลาย หมู่มหาชนในพระนครพันธุมดีราชธานีประมาณ ๘๔,๐๐๐ คน ได้สดับข่าวว่า พระวิปัสสีราชกุมารได้ปลงพระเกศา และพระมัสสุครองผ้ากาสาวพัตร์ เสด็จออกบวชเป็นบรรพชิตแล้ว ภิกษุทั้งหลาย มหาชนประมาณ ๘๔,๐๐๐ ได้ออกบวชเป็นบรรพชิตตามเสด็จ" - คัมภีร์ทีฆนิกาย มหาวรรค


"ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว เราได้เป็นขัตติยราชได้รับมุรธาภิเษก เรานั้นมีพระนคร ๘๔,๐๐๐ พระนคร มีปราสาท ๘๔,๐๐๐ หลัง มีบรรลังก์ ๘๔,๐๐๐ ทำด้วยงา ทำด้วยแก่นจันทร์แดง ทำด้วยทอง มีช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือก มีม้า ๘๔,๐๐๐ ตัว" - คัมภีร์สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค


"ภิกษุทั้งหลาย เขาสิเนรุโดยยาว ๘๔,๐๐๐ โยชน์ โดยกว้าง ๘๔,๐๐๐ โยชน์ หยั่งลงในมหาสมุทร ๘๔,๐๐๐ โยชน์ สูงจากมหาสมุทรขึ้นไป ๘๔,๐๐๐ โยชน์" - คัมภีร์อังคุตตรนิกาย



เนื้อหาบางส่วนอ้างอิงจาก
- www.oknation.net/blog/bunruang/2008/12/08/entry-1

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

เลือกใช้ความคิด

ได้ข้อคิดจากหนังสือมาว่า

.............................................................................................................................................................

มีดที่มีประโยชน์ ก็สามารถใช้หั่นผักหั่นปลา 

แต่ถ้าหากใช้ไม่ระวัง ก็จะบาดมือเจ้าของเอาได้



# ความคิดก็เหมือนกัน

ถ้าใช้ให้ดี ก็สามารถนำไปแก้ปัญหาก็ได้ ทำให้เกิดปัญญาก็ได้

แต่ถ้าใช้ไม่ระวัง ใช้ความคิดไปกับการไปเพ่งโทษคนอื่นที่เขาทำให้ไม่พอใจบ้าง แบบนี้ก็เท่ากับสร้างบาดแผลให้กับใจตนเอง

.............................................................................................................................................................

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก